🌱 ความร่วมมือที่ไม่เคยมีมาก่อนในด้านการศึกษาเรื่องสภาพภูมิอากาศ
Future Carbon Group ของบราซิลและมหาวิทยาลัยโคลัมเบียในสหรัฐอเมริกา ร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมการศึกษาเรื่องสภาพภูมิอากาศและคาร์บอน
การเผยแพร่
วัตถุประสงค์ของสหภาพแรงงานคือการชี้แนะผู้ชมที่มีอำนาจในการตัดสินใจ เช่น ผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญด้าน ESG ผ่านการพูดคุยกับนักแสดงในภาคส่วนนี้ ในวันที่ 10, 17 และ 24 ตุลาคม เวลา 18 น. จะมีการอภิปรายรอบแรกในหัวข้อ “บทบาทของบราซิลในการกำกับดูแลสภาพภูมิอากาศ" (มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย*)
- วันที่ 10 จะมีการเสวนาหัวข้อ ความตกลงปารีสและข้อผูกพันที่ทำขึ้นในปี 2015 -วิธีการเพิ่มความพยายามระดับโลกในการจำกัด ภาวะโลกร้อนl ที่อุณหภูมิ 1,5 องศาเซลเซียส และป้องกันไม่ให้เกิน 2 องศาเซลเซียส จนถึงสิ้นศตวรรษ
- วันที่ 17/10 การอภิปรายจะเกี่ยวกับ เป้าหมายความเป็นกลางของสภาพภูมิอากาศและบทบาทของผู้มีบทบาทที่ไม่ใช่รัฐในฐานะบริษัทและภาคประชาสังคมในการเคลื่อนไหวเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนในเศรษฐกิจ มันคือ
- ในวันที่ 24/10 ระหว่างโมดูลที่สามและสุดท้ายของรอบแรก วิทยากรจะวิเคราะห์ ตลาดคาร์บอนเครดิต ทั้งในระดับโลกและในบราซิล โดยมุ่งเน้นไปที่สถานะปัจจุบันของกลุ่มนี้ ภาพรวมด้านกฎระเบียบของเรา และแนวโน้มที่ควรใช้ประโยชน์จากศักยภาพของตลาดสมัครใจในบราซิล
การอภิปรายจะจัดขึ้นทางออนไลน์และจะมีการแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาโปรตุเกสไปพร้อมๆ กัน การลงทะเบียนฟรีและสามารถทำได้ การเชื่อมโยงนี้.
🚘 Citroën สร้างรถกระดาษแข็ง (และใช่ ฝนก็ตกได้)
รถคันนี้มีชื่อว่า Oli มีการออกแบบที่ล้ำสมัยและมีคุณสมบัติด้านความยั่งยืน มันเป็นระบบไฟฟ้าและมีอิสระ 400 กม. ตัวถังเสริมด้วยไฟเบอร์กลาสและสร้างสรรค์ร่วมกับ Basf
การเผยแพร่
Citroën ตัดสินใจที่จะมุ่งเน้นไปที่การลดจำนวนชิ้นส่วนและส่วนประกอบในรถยนต์ทั่วไป ตามที่ผู้สร้างโปรเจ็กต์กล่าวไว้ Oli มีเพียง "สิ่งที่ลูกค้าต้องการและต้องการ" เท่านั้น
ดังนั้นเบาะนั่งจึงมีองค์ประกอบน้อยกว่ามาตรฐานประมาณ 80% และทำจากวัสดุรีไซเคิลและมีน้ำหนักเบา เช่นเดียวกับแผง หลังคา และด้านหลัง ซึ่งได้รับการพัฒนาร่วมกับบริษัทเคมีระดับโลก Basf และทำจากกระดาษลูกฟูกรีไซเคิลพร้อมเสริมไฟเบอร์กลาส มากเกินไปใช่ไหม?
ผู้ผลิตยังไม่ได้ประกาศว่ารถยนต์จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อใด (และหาก) และยังไม่ได้เปิดเผยประมาณการราคา
การเผยแพร่
🌳 ยุโรปจะต้องเข้มข้นขึ้นในการดำเนินการเกี่ยวกับวิกฤตสิ่งแวดล้อมสามเท่า รายงานของสหประชาชาติกล่าว
รายงานใหม่ขององค์การสหประชาชาติ (UN) นำเสนอเมื่อวันพุธ (5) ต่อหน่วยงานนโยบายสิ่งแวดล้อมทั่วยุโรปที่สูงที่สุดขององค์กร ครอบคลุม 54 ประเทศ - เรียกร้องให้มีการดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขปัญหา วิกฤตสิ่งแวดล้อมสามประการที่กำลังคุกคามโลก. (ข่าวสหประชาชาติ)
ตาม เอกสาร (🇬🇧) – ประพันธ์โดยคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแห่งสหประชาชาติสำหรับยุโรป (UNECE) และโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) – จำเป็นต้องมีการดำเนินการเกี่ยวกับการปล่อยมลพิษ ของเสีย มลพิษ และการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเสริมว่าวิธีแก้ปัญหาสามารถพบได้โดยมุ่งเน้นไปที่ “เศรษฐกิจหมุนเวียน” ” และโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน
“ข้อค้นพบจากการประเมินนี้เกือบครึ่งทางของวาระปี 2030 น่าจะเป็นสัญญาณเตือนสำหรับภูมิภาคนี้” โอลกา อัลกาเยโรวา หัวหน้า UNECE กล่าว “ภัยแล้งครั้งประวัติศาสตร์ที่ภูมิภาคเผชิญในฤดูร้อนนี้ ได้ประกาศสิ่งที่เราควรคาดหวังในปีต่อๆ ไป และแสดงให้เห็นว่าไม่มีเวลาให้เสียไปอีกแล้ว”
การเผยแพร่
☕คาเฟ่ซินโญ่ตกอยู่ในความเสี่ยง
Nestlé เจ้าของแบรนด์ Nespresso และ Nescafe เพิ่งประกาศว่าจะลงทุนหนึ่งพันล้านฟรังก์สวิสภายในปี 2030 ในโครงการเพื่อรับประกันความยั่งยืน - และในบางกรณีการมีอยู่จริงของซัพพลายเออร์กาแฟ: o เนสกาแฟ แผน 2030.
แผนดังกล่าวพยายามที่จะช่วยส่งเสริมการ เกษตรกรรมหมุนเวียน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร. (เนสท์เล่*)
เป้าหมายของ Nestlé คือ 20% ของเมล็ดกาแฟที่เปลี่ยนเป็นกาแฟที่ละลายน้ำได้และต้องผลิตโดยใช้วิธีการสร้างใหม่ภายในปี 2025 และจะถึงครึ่งหนึ่งภายในปี 2030 คาดว่าบริษัทจะซื้อกาแฟระหว่าง 8% ถึง 9% ของกาแฟทั้งหมดที่ผลิตในโลก
การเผยแพร่
โครงการนี้ยังมีส่วนสนับสนุนเป้าหมายของเนสท์เล่ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2030 และบรรลุเป้าหมายคาร์บอนเป็นกลางภายในปี 2050
อ่านเพิ่มเติม:
O Curto สีเขียว เป็นสรุปรายวันเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืน และหัวข้ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความอยู่รอดของเราและของโลก
(): อาจต้องมีการลงทะเบียนและ/หรือลายเซ็น
(🇧🇧): เนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษ
(*): เนื้อหาในภาษาอื่นแปลโดย Google นักแปล
