รัฐมนตรีของโบลโซนาโรโจมตีงานวิจัยของไอเปก ข้อพิพาททางกฎหมายในการเลือกตั้งระดมทนายกองพัน

ในช่วงสุดท้ายของการเลือกตั้งประธานาธิบดี ผู้สมัครที่อยู่ในอันดับที่ดีที่สุดในการสำรวจความคิดเห็นที่มีความตั้งใจในการลงคะแนนเสียงกำลังนำไปสู่สงครามที่แท้จริงในศาลที่อาจแทรกแซงการรณรงค์หาเสียง และแม้กระทั่งลบโฆษณาบางส่วนออกจากอากาศ ในการโต้แย้งเรื่องเรื่องเล่า - รวมถึงบนโซเชียลมีเดียด้วย - การเลือกตั้งแบบสำรวจได้กลายเป็นเป้าหมายสำคัญของการโจมตี

ไม่นานหลังจากการตีพิมพ์การสำรวจ Ipec ใหม่ (เดิมชื่อ Ibope) ซึ่งแสดงระยะห่างที่เพิ่มขึ้นระหว่างสมาชิก PT Lula (47%) และประธานาธิบดี Bolsonaro (31%) รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม Fábio Faria ทวีตว่าประชากร 'จะเรียกร้อง ปิด' สถาบันหลังการเลือกตั้ง และอ้างถึงศาลฎีกาของรัฐบาลกลาง

การเผยแพร่

การเลือกตั้งที่น่าอดสูเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การรณรงค์หาเสียงของโบลโซนาโรที่ผู้สนับสนุนใช้โซเชียลมีเดียอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย

ข้อพิพาทเรื่องเล่าบนเครือข่ายและในศาล

คณะกรรมการกฎหมายแปดคณะ ประกอบด้วยทนายความอย่างน้อย 44 คน ได้รับการว่าจ้างจากผู้สมัครหลักสี่คนของ Palácio do Planalto จนถึงขณะนี้ Jair Bolsonaro (PL), Luiz Inácio Lula da Silva (PT), Ciro Gomes (PDT) และ Simone Tebet (MDB) ได้ยื่นฟ้องมากกว่า 138 คดีต่อศาลการเลือกตั้งขั้นสูง (TSE) การต่อสู้ของผู้สมัครอาจส่งผลให้ต้องเสียค่าปรับและแทรกแซงการหาเสียงของฝ่ายตรงข้าม โดยลบโฆษณาเกี่ยวกับการเลือกตั้งออกจากทางอากาศ

อดีตประธานาธิบดีลูลา (PT) ผู้นำการสำรวจความตั้งใจในการลงคะแนนเสียง ได้ใช้เงินไปแล้ว 2,9 ล้านเรอัล จากกองทุนการเลือกตั้งเพื่อจัดการกับทนายความที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลเท็จที่เผยแพร่โดยการหาเสียงของตำแหน่งอันดับสอง Jair Bolsonaro (PT) นอกจากนี้ยังมีการดำเนินการต่อต้านคำพูดแสดงความเกลียดชังและการใช้บริการสาธารณะอีกด้วย

การเผยแพร่

เรื่องล่าสุดมุ่งเน้นไปที่ข้อกล่าวหาการใช้การเดินทางอย่างเป็นทางการของโบลโซนาโรไปยังสหราชอาณาจักร: ในระหว่างการเยือนงานศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 โบลโซนาโรพูดคุยกับผู้สนับสนุนจากระเบียงบ้านพักอย่างเป็นทางการของเอกอัครราชทูตบราซิลในลอนดอน และถ่ายวิดีโอที่จุดตรวจ เชื้อเพลิงที่บอกว่าน้ำมันเบนซินมีราคาแพงกว่าในบราซิล

Já a campanha de Jair Bolsonaro também foca em as ações que questionam informações falsas praticadas pelo PT, discurso de ódio e imputação de crime ao presidente, como na vez em que ele chamou Bolsonaro de “genocida” em ato de campanha no Piauí. Nas redes, Bolsonaro também rebateu as falas de Lula associando os atos de 7 de setembro à reunião da Ku Klux Klan.

พร้อมเนื้อหาEstadão

เลื่อนขึ้น