เครดิตรูปภาพ: การสืบพันธุ์/Pixabay

การศึกษาชี้ภาวะโลกร้อนอาจสูงถึง 7 องศาเซลเซียส

ไม่มีอะไรเลวร้ายจนไม่สามารถเลวร้ายลงได้ งานวิจัยที่ไม่ได้ตีพิมพ์ซึ่งเรียกว่า Global Arming in the Pipeline ("ภาวะโลกร้อนหดตัว" ในการแปลฟรี) ชี้ให้เห็นว่าความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกในปัจจุบันในชั้นบรรยากาศของโลกเพียงอย่างเดียวสามารถนำไปสู่ภาวะโลกร้อนที่ 10 องศาเซลเซียสได้ในระยะยาว เมื่อพิจารณาถึงผลการชดเชย (เช่น การดำเนินการเย็นลงที่ทำงานโดยอนุภาคละอองลอยในชั้นบรรยากาศ) ความสมดุลจะเป็นดาวเคราะห์ที่มีอุณหภูมิร้อนกว่าอย่างน้อย 7 องศาเซลเซียส

O ศึกษา (🇧🇧) ได้รับการจัดทำขึ้นภายใต้การแนะนำของนักอุตุนิยมวิทยาชาวอเมริกัน เจมส์ แฮนเซน ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์คนแรกที่กล่าวไว้ในปี 1988 ว่า ภาวะโลกร้อน กำลังดำเนินการอยู่ งานวิจัยที่ดำเนินการโดยเขาและผู้เขียนร่วม 14 คนอยู่ใน พิมพ์ล่วงหน้ากำลังรอการตรวจสอบโดยนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ เพื่อการตีพิมพ์ขั้นสุดท้าย

การเผยแพร่

การค้นพบหลักเกี่ยวข้องกับตัวบ่งชี้ที่เรียกว่า ความไวต่อสภาพอากาศอย่างสมดุล (ECS) บนโลกใบนี้ นี่เป็นค่าประมาณว่าอุณหภูมิบนโลกจะเพิ่มขึ้นเท่าใดหากความเข้มข้นของ คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในบรรยากาศเพิ่มขึ้นสองเท่า

กล่าวโดยสรุป ทีมนักวิทยาศาสตร์แนะนำว่าความอ่อนไหวต่อสภาพอากาศของโลกนั้นยิ่งใหญ่กว่าที่เคยจินตนาการไว้ ซึ่งเมื่อพิจารณาจากความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศในปัจจุบัน ทำให้เกิดสถานการณ์ที่มากกว่านั้น น้ำประปา และมีเวลาน้อยกว่าที่คาดไว้

อ่านเพิ่มเติม:

'ภาษีสีเขียว': คืออะไรและเหตุใดจึงมีความสำคัญ

สหภาพยุโรป (EU) ได้กลายเป็นประเทศเศรษฐกิจหลักแห่งแรกที่ออกกฎหมาย 'ภาษีสีเขียว' สำหรับการนำเข้า โดยจะเรียกเก็บจากสินค้าที่ผลิตด้วยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูง (CO2) กลไกการปรับชายแดนคาร์บอน (CBAM) หมายความว่าประเทศที่ไม่สร้างอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะเผชิญกับภัยคุกคามใหม่ในไม่ช้า นั่นคือภาษีคาร์บอนที่มีประสิทธิภาพซึ่งจะลงโทษผู้ที่หวังผลกำไรจากกิจกรรมที่มีคาร์บอนสูง เบื้องต้นระบบจะนำไปใช้กับเหล็กและเหล็กกล้า ซีเมนต์ ปุ๋ย อลูมิเนียม ไฟฟ้า ไฮโดรเจน และผลิตภัณฑ์เคมีบางชนิด แต่คุณรู้หรือไม่ว่า 'ภาษีสีเขียว' นี้หมายถึงอะไร? จะบังคับให้บริษัทต่างๆ ปรับตัวเข้ากับกระบวนการผลิตที่ยั่งยืนมากขึ้นได้อย่างไร?

(🇧🇧): เนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษ

เลื่อนขึ้น