🗳️ ประภาคารสีเขียว
2 วันก่อนการเลือกตั้งปี 2022 Curto News ได้พูดคุยกับ André Lima ที่ปรึกษาอาวุโสด้านนโยบายและกฎหมายสังคมและสิ่งแวดล้อม และผู้ประสานงานของ Farol Verde Panel Farol Verde เป็นโครงการที่สร้างขึ้นโดยสถาบันประชาธิปไตยและความยั่งยืน ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้ลงคะแนนได้รับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับวิธีที่สมาชิกรัฐสภาลงสมัครรับเลือกตั้งมีจุดยืนที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม
การเผยแพร่
วัตถุประสงค์ความคิดริเริ่ม
“ให้ความโปร่งใสในการเลือกตั้งเหล่านี้ และแสดงให้เห็นว่าผู้สมัครคนใดมีความมุ่งมั่นต่อวาระความยั่งยืนในระดับที่สูงกว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้สมัครรับเลือกเข้าสู่สภาหอการค้าหรือวุฒิสภาอีกครั้ง ผ่านดัชนีการบรรจบกันด้านสิ่งแวดล้อม หรือผู้สมัครที่ไม่มีอำนาจในสภานิติบัญญัตินี้ (ไม่รับการเลือกตั้งใหม่) และผู้ตอบแบบสำรวจที่มีคำถาม 12 ข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้ เรามีผู้สมัครใหม่ 147 คน (ไม่รับการเลือกตั้งใหม่) และผู้สมัครรับเลือกตั้งใหม่ 483 คน มีผู้สมัครมากกว่า 600 คน และคุณสามารถตรวจสอบระดับการบรรจบกันและความมุ่งมั่นที่ผู้สมัครแต่ละคนมีต่อวาระด้านสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศ ในกรณีที่มีการเลือกตั้งใหม่ผ่านดัชนีการบรรจบกันด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งมีช่วงตั้งแต่ 0 ถึง 100% และในกรณีของผู้สมัครที่ไม่มีอำนาจผ่านการตอบแบบสำรวจ”
ที่สามารถเข้าร่วมได้
“เรารับผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้งหมด (สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา) และเปิดการสนทนาสาธารณะ ส่งคำเชิญไปยังทุกฝ่าย จากทุกรัฐในบราซิล เรารณรงค์ในสื่อและบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก ณ วันนี้ 29 กันยายน เราได้ปิดการเป็นสมาชิกประภาคารแล้ว สำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งใหม่เข้าสู่หอการค้าและวุฒิสภานั้นคือคะแนนเสียงที่สมาชิกรัฐสภาเหล่านี้มีตลอดสภานิติบัญญัตินี้ (พ.ศ. 09 ถึง พ.ศ. 2019) และการสร้างดัชนีการบรรจบกันด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ของการมาบรรจบกันของผู้สมัครรับเลือกตั้งใหม่ในปี ที่เกี่ยวข้องกับผู้ประสานงานของแนวร่วมรัฐสภานักสิ่งแวดล้อม กล่าวอีกนัยหนึ่ง เปอร์เซ็นต์ของคะแนนเสียงของสมาชิกรัฐสภาเหล่านี้มาบรรจบกับผู้ประสานงานแนวหน้านี้ ยิ่งใกล้ 2022% ยิ่งผู้สมัครเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากเท่าไร ยิ่งเข้าใกล้ 100 มากเท่าไร เขาก็เป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมน้อยลงเท่านั้น ในกรณีของ 0 คนที่เข้าร่วมคณะผู้พิจารณาโดยสมัครใจ (ผู้สมัครที่ไม่รับการเลือกตั้งใหม่) เกณฑ์ที่ใช้คือคำถาม 147 ข้อในหัวข้อต่างๆ เช่น สภาพภูมิอากาศ การคุ้มครองน้ำ การปล่อยสัตว์ชนิดหนึ่ง สารกำจัดศัตรูพืช การคุ้มครอง Cerrado ป่าแอตแลนติก ป่าอเมซอน การปฏิรูปภาษีอย่างยั่งยืน รวมถึงหัวข้ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง”
การตอบสนองของสังคม
“โดยรวมแล้วเราประเมินว่าได้รับการตอบรับดีมาก เรามีการดูแคมเปญของเรามากกว่า 3 ล้านครั้งบนโซเชียลมีเดีย มีการเข้าชมมากกว่า 100 ครั้งบนเว็บไซต์ของเรา รวมถึงการเข้าชมแบบออร์แกนิกมากกว่า 10 ครั้ง และโดยเฉลี่ยแล้ว เรามีความถี่บนเว็บไซต์มากกว่า 1 นาที ค่าเฉลี่ยที่ดีคืออะไรคือใครกำลังมองหาผู้สมัครในรัฐของตน ดังนั้นตัวชี้วัดที่เรามีจึงค่อนข้างเป็นบวก เรายังมีเป้าหมายที่ใหญ่กว่า เรามีเวลาลงคะแนนล่วงหน้าอีก 2 วัน และเราต้องการส่งผลกระทบต่อผู้ลงคะแนนเสียงอย่างน้อย 200 คนทั่วบราซิล เข้าถึงผู้คนประมาณ 5 ล้านคนที่ดูพอร์ทัล และเข้าถึงเว็บไซต์เพื่อการวิจัยของผู้สมัคร 200 คน”
การเผยแพร่
🌱 การค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนเติบโต 32% ในบราซิล
การบริโภคของ ผลิตภัณฑ์ที่มีผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม มีการเติบโตอย่างมากในบราซิล นั่นคือสิ่งที่คนหนึ่งพูด การวิจัยดำเนินการโดยอีคอมเมิร์ซ Mercado Livreระหว่างเดือนเมษายน 2021 ถึงเดือนมีนาคม 2022
จากการสำรวจ ผลิตภัณฑ์ที่มีผลกระทบเชิงบวก “คือผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมวิถีชีวิต นิสัย และพฤติกรรมที่ยั่งยืน และมีผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและ/หรือสังคม ผลิตภัณฑ์ที่การบริโภคส่งเสริมการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และ/หรือ การสร้างประโยชน์ทางสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น การลดปริมาณของเสียที่ส่งไปยังสถานที่ฝังกลบ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้พลังงาน และ/หรือการสร้างรายได้ให้กับองค์กรพัฒนาเอกชน ระหว่างผู้อื่น"
ผลการวิจัยพบว่าจำนวนผู้ซื้อสินค้าที่ส่งเสริมวิถีชีวิต นิสัย และพฤติกรรมที่ยั่งยืนและมีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เติบโต 32%.
การเผยแพร่
ในละตินอเมริกา อาหารและเครื่องดื่มที่สร้างผลกระทบเชิงบวกเป็นหมวดหมู่ที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับสาม ซึ่งเพิ่มขึ้น 235%
องค์ประกอบและคุณภาพของผลิตภัณฑ์เป็นปัจจัยที่นำไปสู่มูลค่าที่มากขึ้น ณ เวลาที่ได้มา
จากการสำรวจพบว่า 12% ชอบผลิตภัณฑ์ที่มีบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล e 10% ทำด้วยส่วนประกอบอินทรีย์หรือเกษตรวิทยา การศึกษาเดียวกันระบุว่าผู้ใช้เก้าใน 10 รายเห็นพ้องกันว่า “สถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมน่ากังวลมาก”
การเผยแพร่
🏭 การรั่วไหลจาก Nord Stream 1 และ 2 เทียบเท่ากับ 40% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประจำปีของสวีเดน
เจ้าหน้าที่จากประเทศต่างๆ ในยุโรปกำลังสืบสวนการรั่วไหลอย่างน้อย 1 ครั้งในท่อส่งก๊าซ Nord Stream 2 และ XNUMX ซึ่งเป็นแหล่งนำเข้าก๊าซที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และไม่ได้ใช้งานอยู่ในขณะที่เกิดการแตกร้าว มีความสงสัยว่าจะมีการก่อวินาศกรรม แต่ประเทศต่างๆ ก็ได้ระมัดระวังในการชี้ให้เห็นสาเหตุและผู้กระทำผิด
ขณะนี้มีการถกเถียงกันอย่างเข้มข้นในยุโรปเกี่ยวกับความไม่มั่นคงโดยทั่วไปของโครงสร้างพื้นฐานของก๊าซ และผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศจากการรั่วไหลโดยไม่ได้ตั้งใจหรือโดยเจตนา
การรั่วไหลเกิดขึ้นในน่านน้ำสวีเดนและเดนมาร์ก คริสตอฟ ดูวิก ศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมเคมีจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งสวีเดน กล่าวไว้ว่า การรั่วไหลอาจเทียบเท่ากับประมาณ 40% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประจำปีของสวีเดน.
การเผยแพร่
Uma การประเมินเบื้องต้น (พีบีเอส) จากทางการเดนมาร์ก สอดคล้องกับประมาณการการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าเวียนหัว โดยระบุว่า งานดังกล่าวอาจเทียบเท่ากับหนึ่งในสามของสิ่งที่เดนมาร์กปล่อยออกมาทุกปี.
การรั่วไหลขนาดนี้สามารถปล่อยมีเทนได้ประมาณ 0,3 ล้านตัน ตามการประมาณการของคลังสมอง CONCITO ของเดนมาร์ก สิ่งนี้สอดคล้องกับ ระหว่าง 18 เดือนถึง 4 ปีของการปล่อย CO2 จากรถยนต์โดยสารของเดนมาร์กหรือการปล่อยหม้อต้มก๊าซฟอสซิล 2,5 ถึง 6,5 ล้านเครื่องในหนึ่งปี
"แม้ว่าเราจะยังไม่แน่ใจถึงสาเหตุ แต่ภัยพิบัติจาก Nord Stream เตือนเราว่าโครงสร้างพื้นฐานเชื้อเพลิงฟอสซิลมีความเสี่ยงอย่างไรโธมัส เพลเลอร์ริน-คาร์ลิน ผู้อำนวยการศูนย์พลังงาน Jacques Delors นักวิจัยอาวุโส นโยบายพลังงานของยุโรป กล่าว
"เริ่มชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเราต้องหยุดลงทุนในเชื้อเพลิงฟอสซิลและโครงสร้างพื้นฐานของพวกมันDavid Kihlberg หัวหน้าแผนกสภาพอากาศของสมาคมอนุรักษ์ธรรมชาติแห่งสวีเดนกล่าว “พลังงานทดแทนมีทั้งความปลอดภัยและยั่งยืนมากขึ้น"
คิห์ลเบิร์ก กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวจากมุมมองของสภาพอากาศเท่านั้นว่าเป็นหายนะ
"มีความไม่แน่นอนหลายประการ แต่หากท่อส่งก๊าซเหล่านี้พัง ผลกระทบต่อสภาพอากาศจะเป็นหายนะและอาจไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนด้วยซ้ำ“ David McCabe นักเคมีด้านชั้นบรรยากาศ ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์อาวุโสของ Clean Air Task Force กล่าว
👟 The Amazon is fashion: Osklen เปิดตัวรองเท้าผ้าใบที่ใช้วัตถุดิบจากป่า
กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ของแบรนด์มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจชีวภาพของป่าไม้ และก่อตั้งขึ้นโดยความร่วมมือกับ Instituto-E
เทนนิสรุ่นใหม่ เอจี | ผู้พิทักษ์อเมซอน พวกเขาผลิตด้วยปอกระเจาจากอเมซอนซึ่งเป็นวัตถุดิบธรรมชาติและอินทรีย์จากภูมิภาคซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าแมลงหรือปุ๋ย เจ๋งใช่มั้ย?
ในระหว่างกระบวนการพัฒนาเส้นใยให้เป็นผ้า มีการใช้สารเติมแต่งออร์แกนิกและน้ำมันพืชที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ
บรรทัดใหม่แสดงถึงความปรารถนาของแบรนด์และความพยายามอย่างต่อเนื่องในการเสริมสร้างเศรษฐกิจชีวภาพของแอมะซอน รักษาความหลากหลายทางสังคมและทางชีวภาพ และวัฒนธรรมของชนเผ่าพื้นเมืองของภูมิภาค
O Curto สีเขียว เป็นสรุปรายวันเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืน และหัวข้ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความอยู่รอดของเราและของโลก
(คอม เอสตาเดา คอนเตอูโด และเอเอฟพี)
(): อาจต้องมีการลงทะเบียนและ/หรือลายเซ็น
(🇧🇧): เนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษ
(*): เนื้อหาในภาษาอื่นแปลโดย Google นักแปล
