สุสานความหลากหลายทางชีวภาพ วิกฤตสภาพภูมิอากาศที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดี และอื่นๆ

🌊 สุสานความหลากหลายทางชีวภาพ

คลื่นความร้อนที่รุนแรงที่กระทบยุโรปในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้อุณหภูมิของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพิ่มขึ้นถึง 5°C สูงกว่าค่าเฉลี่ยของฤดูร้อน

การเผยแพร่

สิ่งที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการว่ายน้ำที่อุณหภูมิประมาณ 30°C ถือเป็นฝันร้ายสำหรับสัตว์ทะเลที่ไม่สามารถอพยพไปยังอุณหภูมิที่เย็นกว่าได้

ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นทะเลปิด ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 1% ของมหาสมุทรทั่วโลก แต่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลประมาณ 7,5% ของโลก และมีการติดต่อกับมหาสมุทรแอตแลนติกผ่านทางช่องแคบยิบรอลตาร์เท่านั้น ซึ่งอำนวยความสะดวกในกระบวนการของมัน เครื่องทำความร้อน

ในการให้สัมภาษณ์กับ RFI Joaquim Garrabou นักวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลบาร์เซโลนา ประกาศว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้คลื่นทะเลเมดิเตอร์เรเนียนนั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด หรือไม่ค่อยมีใครทราบ แต่ปรากฏการณ์ที่ร้ายแรงมากกำลังเกิดขึ้น เรากำลังเห็นกระบวนการที่ฉันคิดว่าจะไม่เห็น กระบวนการสูญพันธุ์ของสายพันธุ์ในท้องถิ่น”. (RFI)

การเผยแพร่

Garrabou เป็นหนึ่งในผู้เขียนงานวิจัยนี้ ตีพิมพ์ในนิตยสารเดือนกรกฎาคม เปลี่ยนชีววิทยาทั่วโลก (🇬🇧) ซึ่งเขากล่าวว่า เนื่องจากลักษณะทางกายภาพ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนถือเป็นจุดที่เปราะบางที่สุดจุดหนึ่งต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสภาพภูมิอากาศเกินขีดจำกัดที่กำหนดไว้ในข้อตกลงปารีสปี 2015

Curto การดูแล:

⚖️ วิกฤตสภาพภูมิอากาศระหว่างการพิจารณาคดี

วัยรุ่นชาวโปรตุเกสกลุ่มหนึ่งจะมีกรณีของพวกเขา – ได้รับการส่งเสริมต่อต้าน 32 ประเทศในยุโรป ซึ่งจะมีการหารือถึงความไร้ประสิทธิผลของนโยบายสภาพภูมิอากาศของพวกเขา – ได้รับการพิจารณาต่อหน้าศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป (ECtHR). (การ์เดียน*)

หลังจากรอคอยมา 5 ปี คนหนุ่มสาวจะยืนยันว่าไฟป่าที่เกิดขึ้นในประเทศโปรตุเกสทุกปีตั้งแต่ปี 2017 เป็นผลโดยตรงจาก ภาวะโลกร้อน.

การเผยแพร่

วิดีโอโดย: CNN

โจทก์กล่าวหาถึงความเสี่ยงต่อสุขภาพจากเพลิงไหม้เหล่านี้ และกล่าวว่าพวกเขาประสบปัญหาการนอนหลับผิดปกติ ภูมิแพ้ และปัญหาระบบทางเดินหายใจ ซึ่งแย่ลงจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด

นอกจากนี้ พวกเขาโต้แย้งว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดพายุที่รุนแรงมากในฤดูหนาว ซึ่งทำให้บ้านของพวกเขาซึ่งตั้งอยู่ใกล้ทะเลในลิสบอนตกอยู่ในความเสี่ยง

กรณีของพวกเขาเข้าร่วมกับการฟ้องร้องเรื่องสภาพภูมิอากาศอื่นๆ ที่คาดว่าจะมีการไต่สวนก่อนการประชุม ECtHR ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และหากประสบความสำเร็จ รัฐบาลจะมีหน้าที่ตามกฎหมายในการเพิ่มการลดการปล่อยก๊าซ นอกเหนือจากมาตรการอื่นๆ

การเผยแพร่

🌳 ผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อป่าไม้ในทวีปอเมริกา

ชุดการศึกษาซึ่งพิจารณาถึงสุขภาพของต้นไม้ในอเมริกาเหนือและใต้ แสดงให้เห็นว่า ภาวะโลกร้อนเมื่อรวมกับการเปลี่ยนแปลงของดิน ลม และสารอาหารที่มีอยู่ กำลังเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของป่าไม้อย่างรวดเร็ว ทำให้มีความยืดหยุ่นน้อยลงและเสี่ยงต่อการเป็นโรค

Roman Dial นักชีววิทยาจากมหาวิทยาลัย Alaska Pacific อธิบายว่าพื้นที่ป่าหลายแห่งเริ่มเสี่ยงต่อไฟป่ามากขึ้นส่งผลให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากขึ้น. (เดอะการ์เดียน*)

“มันเหมือนกับว่ามนุษย์จุดไม้ขีด และตอนนี้เราก็เห็นผลลัพธ์ของมันแล้ว” ไดอัลกล่าว

การเผยแพร่

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่ Roman Dial และนักวิจัยคนอื่นๆ สังเกตเห็น ได้แก่ ต้นสนสีขาวเป็นหย่อมๆ ทางตอนเหนือของอลาสกา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่มีต้นไม้ชนิดนี้มานานนับพันปี

Em บทความที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร ธรรมชาตินักวิทยาศาสตร์ประเมินว่าต้นสนกำลังเคลื่อนตัวจากทางตะวันตกเฉียงเหนือของอะแลสกาไปสู่ทางตอนเหนือของอะแลสกาด้วยความเร็วประมาณ 4 ไมล์ต่อทศวรรษ โดยได้รับความช่วยเหลือจากอุณหภูมิที่ร้อนขึ้น และได้รับอิทธิพลจากน้ำแข็งในทะเลที่ลดลงในภูมิภาคนี้

ผลกระทบของวิกฤตสภาพภูมิอากาศก็มีความรู้สึกในอเมซอนเช่นกัน การวิจัยอื่น ๆ พบว่าการขาดฟอสฟอรัสในดินป่าอาจมี “นัยสำคัญ” เกี่ยวกับความสามารถในการปรับตัวต่อภาวะโลกร้อน. (ธรรมชาติ*)

🌱 การตัดไม้ทำลายป่าภายในดินแดนของชนพื้นเมือง

สถาบันมนุษย์และสิ่งแวดล้อมแห่งแอมะซอน (Imazon) เปิดเผยผลการศึกษาที่จัดทำแผนที่การตัดไม้ทำลายป่าภายในดินแดนของชนพื้นเมือง

จากดินแดนของชนพื้นเมือง 10 แห่งที่ถูกระบุว่าอยู่ภายใต้แรงกดดันจากการตัดไม้ทำลายป่ามากที่สุด มี 5 ดินแดนที่ตั้งอยู่ในรัฐปารา

การสำรวจแสดงให้เห็นว่าที่ดินของชนพื้นเมือง Apyterewa ใน Pará ถูกกดดันมากที่สุดจากการตัดไม้ทำลายป่าในไตรมาสที่สองของปีนี้ ระหว่างเดือนเมษายนถึงมิถุนายน

Apyterewa ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล São Félix do Xingu และเป็นบ้านของชาว Parakanã โดยเป็นพื้นที่ของชนเผ่าพื้นเมืองที่ถูกตัดไม้ทำลายป่ามากที่สุดในแอมะซอนในปี 2021 ในปีนี้ มีการบันทึกการบุกรุกครั้งใหม่โดยผู้แย่งชิงที่ดินในพื้นที่ดังกล่าว ตามที่ตำรวจสหพันธรัฐระบุว่า ผู้บุกรุกได้ทิ้งฝูงวัวไว้บนที่ดินของชนพื้นเมืองด้วยซ้ำ. (อเมซอน)

“ในเดือนมิถุนายนเพียงเดือนเดียว Apyterewa TI คิดเป็น 52% ของการตัดไม้ทำลายป่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ของชนพื้นเมืองในอเมซอน มีขนาด 14 กม.² ซึ่งเท่ากับสนามฟุตบอล 1.400 สนาม” Larissa Amorim นักวิจัยจาก Imazon อธิบาย

โทรของ “ภัยคุกคามและแรงกดดันจากการตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่คุ้มครอง”โดยผลการวิจัยจะตีพิมพ์เป็นรายไตรมาสโดยสถาบัน

ในประเด็นนี้ รัฐบาลปาราประกาศว่าการตรวจสอบที่ดินของชนพื้นเมืองเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลกลาง ในทางกลับกัน กระทรวงสิ่งแวดล้อมระบุว่าการตัดไม้ทำลายป่าในดินแดนพื้นเมืองลดลง 26,8% ระหว่างปี 2019 ถึง 2021 และงบประมาณสำหรับการตรวจสอบในดินแดนเหล่านี้เพิ่มขึ้นอีก 150% ในช่วงสามปีที่ผ่านมา. (G1)

Curto สีเขียว เป็นสรุปรายวันเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืน และหัวข้ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความอยู่รอดของเราและของโลก

ภาพเด่น: การสืบพันธุ์/Pixabay

(): อาจต้องมีการลงทะเบียนและ/หรือลายเซ็น

(🇧🇧): เนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษ

(*): เนื้อหาในภาษาอื่นแปลโดย Google นักแปล