ESG ซึ่งเป็นคำย่อที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นหมายถึงอะไร

ESG คืออะไร?

ย่อมาจากภาษาอังกฤษว่า for สิ่งแวดล้อม, สังคม e การกำกับดูแลซึ่งแสดงถึงชุดการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลที่ดำเนินการโดยบริษัทต่างๆ 

ดูรูปภาพนี้บน Instagram

โพสต์ที่แบ่งปันโดย ESG Brasil Academy (@esgbrasilacademy)

ในด้านสิ่งแวดล้อม อักษรย่อ “E” สิ่งแวดล้อม, รวมถึง:

• อากาศเปลี่ยนแปลง; 
• การบันทึก;
• มลพิษ;
• การใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
• ความหลากหลายทางชีวภาพ.

ไม่ สังคมอักษรย่อ “S” หมายถึง:

• สิทธิมนุษยชนและแรงงาน
• นโยบายการไม่แบ่งแยกและความหลากหลาย
• ผลกระทบต่อชุมชน
• การส่งเสริมคุณวุฒิวิชาชีพ
• ความพึงพอใจของพนักงาน

ในการกำกับดูแลใช้ตัวย่อ “G” สำหรับ การกำกับดูแล เกี่ยวข้องกับ:

• ความโปร่งใสทางการคลัง
• การดำเนินการต่อต้านการทุจริต
• การจัดการที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุม
• การดำเนินการทางวินัย

ESG ยอดนิยม

การศึกษาที่ดำเนินการในเดือนกันยายนปีนี้โดย Google, MindMiners และ Sistema B Brasil มีจำนวน 3 พันคน แสดงให้เห็นว่า ESG มีความเกี่ยวข้องอย่างมากทั้งกับบริษัทและในบริษัทของพวกเขา ธุรกิจ และจาก การตลาด และสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการทราบตำแหน่งและชื่อเสียงของแบรนด์ที่พวกเขาบริโภค 

แม้ว่าชาวบราซิลเพียง 1 ใน 5 (21%) เท่านั้นที่เคยได้ยินชื่อย่อนี้ ESGจากการสำรวจพบว่า 4 ใน 5 (87%) ได้ประกาศถึงบทบาทของบริษัทและแบรนด์ในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับ มีโอ แอมเบียนเต, ภาพพาโนรามาทางสังคม e การปกครอง. 

จากการศึกษาพบว่า 47% ของผู้ตอบแบบสอบถามไม่สามารถเชื่อมโยงแบรนด์เข้ากับธีมต่างๆ ได้ตามธรรมชาติ ESG.

รายงานเดียวกันนี้ระบุว่าผู้บริโภคคาดหวังว่าแบรนด์จะมีความโปร่งใสเกี่ยวกับผลกระทบของการกระทำต่อช่องทางการสื่อสาร สนับสนุนองค์กรพัฒนาเอกชนและการเคลื่อนไหวที่ทำงานในประเด็นที่เกี่ยวข้อง และพัฒนาแคมเปญสื่อที่สร้างการรับรู้และสร้างรายได้สำหรับโครงการเพื่อสังคม

จากการศึกษาสรุปได้ว่าด้วยการวางตำแหน่งแบรนด์ของคุณและสร้างมูลค่าจากธีมต่างๆ ESGบริษัทจะเพิ่มความตั้งใจในการซื้อและการเชื่อมโยงทางอารมณ์กับผู้บริโภค

Curto การดูแล:

• ESG: คืออะไร มีข้อดีอย่างไร และจะนำไปใช้อย่างไร? (สื่อ & ข้อความ);
• ทำความเข้าใจว่า ESG คืออะไร และเหตุใดตัวย่อจึงมีความสำคัญสำหรับบริษัทต่างๆ (Valor Economico );
• นักลงทุนปฏิบัติตามพันธสัญญา ESG เพื่ออนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (ไทม์ทางการเงิน*)

อ่านเพิ่มเติม:

'ภาษีสีเขียว': คืออะไรและเหตุใดจึงมีความสำคัญ

สหภาพยุโรป (EU) ได้กลายเป็นประเทศเศรษฐกิจหลักแห่งแรกที่ออกกฎหมาย 'ภาษีสีเขียว' สำหรับการนำเข้า โดยจะเรียกเก็บจากสินค้าที่ผลิตด้วยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูง (CO2) กลไกการปรับชายแดนคาร์บอน (CBAM) หมายความว่าประเทศที่ไม่สร้างอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะเผชิญกับภัยคุกคามใหม่ในไม่ช้า นั่นคือภาษีคาร์บอนที่มีประสิทธิภาพซึ่งจะลงโทษผู้ที่หวังผลกำไรจากกิจกรรมที่มีคาร์บอนสูง เบื้องต้นระบบจะนำไปใช้กับเหล็กและเหล็กกล้า ซีเมนต์ ปุ๋ย อลูมิเนียม ไฟฟ้า ไฮโดรเจน และผลิตภัณฑ์เคมีบางชนิด แต่คุณรู้หรือไม่ว่า 'ภาษีสีเขียว' นี้หมายถึงอะไร? จะบังคับให้บริษัทต่างๆ ปรับตัวเข้ากับกระบวนการผลิตที่ยั่งยืนมากขึ้นได้อย่างไร?

กลุ่มยุโรปบรรลุข้อตกลงในวงกว้างเกี่ยวกับการปฏิรูปตลาดคาร์บอน

MEPs และรัฐสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) บรรลุข้อตกลงในเช้าวันอาทิตย์นี้ (18) เกี่ยวกับการปฏิรูปตลาดคาร์บอนในวงกว้างซึ่งเป็นส่วนสำคัญของแผนสภาพภูมิอากาศของกลุ่ม 27 แผนดังกล่าวพยายามที่จะเร่งการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและ เป็นการก้าวกระโดดในความทะเยอทะยานของตลาดคาร์บอนในยุโรปในปัจจุบัน โดยค่อยๆ ขจัด "สิทธิในการปล่อยมลพิษ" อันเสรีที่เกิดจากอุตสาหกรรม

Curto อธิบาย: ทุกสิ่งที่จำเป็นต้องรู้และอายที่จะถาม!

- เนื้อหาเป็นภาษาอื่นแปลโดย Google นักแปล

(🇧🇧): เนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษ

(): อาจต้องมีการลงทะเบียนและ/หรือลายเซ็น